รายชื่อผู้เล่นใน Multiplayer
- [ZenJune] Uplay ID : zenjune
- [ounoun57] Uplay ID : O_Taiki
- [nut26327] Uplay ID : nut26327
- [nearmeothen] Uplay ID : nearmeothen
- [banoffie12] Uplay ID : meakie
- [pekko] Uplay ID : jlUljlUl
- [mangma] Uplay ID : noxsak
- [morendum] Uplay ID : morendum
- [Mystery] Uplay ID : MapleTree
- [podymal] Uplay ID : biscuits48
- [riod] Uplay ID : riod515
*Warning ถ้าจะสปอย.. ยังไงก็เขียนเตือนไว้ พร้อมกับถมขาวนิดนึงนะครับ =w=
ทำเนื้อหาครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ^^
ทำเนื้อหาครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ^^
Update Log
17/04/54 20:26 ~ How to Unlock ... ? [Rep 2] & Walkthrough [Rep 2]
28/03/54 18:22 ~ The Truth [Rep 4]
27/03/54 01:36 ~ The Story Before AC II - Assassin's Creed : Lineage [Rep 1]
25/03/54 16:50 ~ Grand Master of the Assassin Order [Rep 1]
--/--/-- --:-- ~
17/04/54 20:26 ~ How to Unlock ... ? [Rep 2] & Walkthrough [Rep 2]
28/03/54 18:22 ~ The Truth [Rep 4]
27/03/54 01:36 ~ The Story Before AC II - Assassin's Creed : Lineage [Rep 1]
25/03/54 16:50 ~ Grand Master of the Assassin Order [Rep 1]
--/--/-- --:-- ~
Assassins Creed Brotherhood System Requirements
สเปคขั้นต่ำ
- OS: Windows XP (32-64 bits) /Windows Vista(32-64 bits)/Windows 7 (32-64 bits)
- CPU: Intel Core 2 Duo 1.8 GHZ or AMD Athlon X2 64 2.4GHZ
- RAM: 1.5 GB Windows XP / 2 GB Windows Vista - Windows 7
- VIDEO: 256 MB DirectX 9.0-compliant card with Shader Model 3.0 or higher (see supported list*)
- DX: 9.0
- HARD DRIVE: 8 GB
- SOUND: DirectX 9.0 -compliant sound card
- PERIPHERALS: Keyboard, mouse, optional controller
- Supported Video Cards: ATI RADEON HD 2000/3000/4000/5000/6000 series, NVIDIA GeForce 8/9/100/200/300/400/500 series
- Note* * This product does not support Windows 98/ME/2000/NT
สเปคที่แนะนำ
- OS: Windows XP (32-64 bits) /Windows Vista(32-64 bits)/Windows 7 (32-64 bits)
- CPU: Intel Core 2 Duo E6700 2.6 GHz or AMD Athlon 64 X2 6000+ or better
- RAM: 1.5 GB Windows XP / 2 GB Windows Vista - Windows 7
- VIDEO: GeForce 8800 GT or ATI Radeon HD 4700 or better
- SOUND: 5.1 sound card
- PERIPHERALS: joystick optional (Xbox 360 Controller for Windows recommended)
- Supported Video Cards: ATI RADEON HD 2000/3000/4000/5000/6000 series, NVIDIA GeForce 8/9/100/200/300/400/500 series
- Note* * This product does not support Windows 98/ME/2000/NT
AC:Brotherhood Preview
-การพัฒนาเมืองจะกลับมาอีกครั้ง แค่คราวนี้ จะไม่ใช่แค่เมืองเล็กๆ แต่จะเป็นเมืองทั้งเมือง
-Rome จะใหญ่กว่า Venice ถึง 4เท่า (Venice ตูยังเดินไม่รอบเลย)
-ศัตรูตัวฉกาจหน้าใหม่จะ เยาว์กว่า แข็งแรงกว่า และมีความสามารถพอๆกับ Ezio ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Cesare Borgia ลูกชายของ Rodrigo Borgia เอง
-เกมจะเริ่มที่ปี 1500 กับ Ezio ที่อายุ 45 ปี (กลายเป็นนักฆ่าตัวพ่อไปซะแล้ว)
-เกาะ Tiber (เกาะกลางแม่น้ำ Tiber ที่อยู่กลางกรุง Rome) จะเป็นสำนักงานใหญ่ของ Assassin ใน Rome
-ถึงเราจะออกจากโรมไม่ได้ แต่ก็สามารถจะนำ Assassin ต่างๆ ไปไว้ทั่วทวีป เช่น Madrid,Paris หรือ Frankfurt
-พวกที่เราจ้างมา (ไม่มีรายละเอียดว่า "ใคร") จะสามารถเปลี่ยนอาวุธ เสื้อผ้า และเกราะได้ และหลังจากพวกเขาได้รับประสบการณ์ ก็สามารถอัพเกรดความสามารถได้ด้วย
-เราสามารถจะเลือก Assassin ให้ตามเราไปได้ ไม่มีรายละเอียดว่าใครบ้างหรือกี่คน (น่าจะ 4 คน) เพื่อไปเป็นเหมือน"บอดี้การ์ด"ประจำตัว
-Nicolo Machiavelli จะกลับมา,Rodrigo Borgia อาจจะกลับมา ส่วน Leonado ก็จะมา แต่บทบาทอาจจะน้อยลง แต่ก็น่าจะมีวิทยาการใหม่ให้เราไปเชือดคอชาวบ้านเล่น และ Desmond Miles ก็จะกลับมา แต่จะไม่ใช่ตัวเอก และอาจจะปรากฏตอนท้ายๆเรื่อง
-จำ Animus เยอะๆ ที่เราวิ่งผ่านตอนเริ่มเกมได้ไหม? (รู้สึกจะมีพหูพจน์ว่า Animi) Abstergo ใช้มันเพื่อฝึกให้คน เป็น นักฆ่า และไปตามล่า assassin และก็เชือดคอซะ
-ตัวละครต่างที่เพิ่มขึ้นมา 5 ตัวคือ Nobleman, Courtesan, Doctor,Priest และ Executioner จะมีเสื้อผ้า หน้าผม,ท่าเดิน ,อารมณ์ และท่าปลิดชีพ Templar ตัวน้อย ที่แตกต่างกัน
-ยังมีอีกหนึ่งตัว แต่ข้อมูลยังไม่ชัดเจนชื่อ Prowler ยังไม่แน่ใจว่าไว้ใช้ทำอะไร
-โหมด Multiplayer จะมีทั้งแบบฝ่ายตรงกันข้าม, การร่วมมือเป็นทีม และการทำตามเป้าหมายต่างๆ
-หนึ่งในโหมด Multiplayer ชื่อ "Wanted" ซึ่งจะนำเอาผู้เล่น 8 คนไปวางไว้กระจัดกระจายในแผนที่ ทุกคนจะต้องตามล่าอีกคน และจะโดนล่าโดยอีกคน เหมือนกับ "แมวไล่หนู หมาไล่แมว แล้วหนูไล่หมา"
-จะมีการขี่ม้าในเมือง และมีการลอบฆ่าบนหลังม้าด้วย!! แหม ช่างน่าอภิรมย์เสียเหลือเกิน
-โหมดสร้างตัวละครใน Multiplayer จะสามารถเลือกความสามารถ และ อาวุธพิเศษต่างๆได้ และน่าจะคล้ายๆระบบ PEC ของเกม Rainbow Six Vegas 2 ที่สามารถสร้าง และ เก็บตัวละครไว้ในแอคเคาน์ได้
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
The Story So Far ...!
[Spoil]
---Desmond Miles หนุ่มบาร์เทนเดอร์ วัย 25 ปี ได้ถูกนำมาเข้าร่วมการทดลองบางอย่างภายใต้การดูแลขององค์กร "Abstergo Industries" องค์กรในเงามืด เขาต้องทดลองผ่านเครื่องที่ชื่อว่า Animus ที่ดูแลโดย Dr.Warren Vidic, Vidic ได้ให้ Desmond เข้าไปในเครื่องและทำการย้อนความทรงจำทางพันธุกรรมเพื่อที่จะหาบรรพบุรุษของ Desmond โดยตัว Vidic นั้นหวังว่าบรรพบุรุษของ Desmond นั้นจะเกี่ยวโยงกับ "Assassin" เพื่อที่จะค้นหาว่า Artifact อันทรงพลังที่ถูกเรียกว่า "Apple of Eden" นั้นอยู่ที่ใด
---Desmond ได้เริ่มเดินทางผ่านความทรงจำโดยเครื่อง Animus และได้หลุดเข้าไปในความทรงจำของ Altair Ibn-La'Ahad บรรพบุรุษที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งในองค์กร Assassin ซึ่งอยู่ในช่วงสมครามครูเสดที่สาม (Third Crusade), Desmond ได้สำรวจผ่านความทรงจำของ Altair เพื่อตัวเขาเองก็จะได้รู้สาเหตุว่าตัวเองถูกจับมาทดลองเพื่ออะไร ... ซึ่ง Vidic เก็บไว้เป็นความลับ และไม่ได้บอก Desmond
---Desmond ได้ค้นพบการต่อสู้ในยุคนั้น ระหว่างองค์กรลับ 2 องค์กร คือ Assassin กับ Templar ซึ่งทั้งคู่ต่างก็พยายามค้นหา Artifact "ทรงพลัง" เพื่อที่จะนำมันไปใช้สร้างสรรโลกใหม่ขึ้นมา
---ความจริงเริ่มกระจ่างอย่างรวดเร็วถึงสาเหตุที่ Desmond ต้องถูกให้มาทดลองในที่แห่งนี้ องค์กร Abstergo นั้นถูกควบคุมโดยเหล่า Templar ...สิ่งที่ Desmond ทำอยู่ในเครื่อง Animus นั้นมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้ค้นหาตำแหน่ง Piece of Eden ซึ่งมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีพลังแห่งการควบคุม !...และเหล่า Templar ตามล่ามันเพื่อจะนำไปใช้ควบคุมมนุษย์ทั้งโลก ! ในขณะเดียวกันผู้ช่วยของ Dr.Vidic , Lucy ก็เปิดเผยความจริงว่าตัวเองนั้นเป็นคนของ Assassin และได้ช่วย Desmond หลบหนีออกมาจากองค์กร Abstergo พร้อมกับขโมยข้อมูลสำคัญบางส่วนออกมาจากเครื่อง Animus
---หลังจากที่หลบหนีออกมาจากองค์กร Abstergo , Desmond ก็ถูกชักชวนโดย Lucy ให้มาเข้า Assassin Order และช่วยต่อกรกับเหล่า Templar ซึ่งสถานการณ์และคำพูดของ Lucy ก็เหมือนบังคับทำให้ Desmond ต้องยอมรับข้อเสนอ Lucy ยังได้แนะนำสมาชิก Assassin อีก 2 คน คือ Shuan Hastings และ Rebecca Crane ซึ่งจะมาช่วยให้ Desmond กลายเป็น Assassin อย่างเต็มตัว !
---Desmond ได้กลับเข้าเครื่อง Animus อีกครั้งในที่หลบภัยของ Assassin โดยใช้ความทรงจำที่ Lucy ขโมยมาจาก Abstergo แต่คราวนี้กลับหลุดเข้าไปในความทรงจำของบรรพบุรุษอีกคนหนึ่งคือ Ezio Auditore da Firenze ลูกชายของนายธนาคาร, เพราะ Ezio เป็นทายาทที่จะมีบทบาทในองค์กร Assassin และจะเป็นบุคคลที่จะมีความสำคัญคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ Assassin, Desmond จึงได้ใช้ความทรงจำของ Ezio ฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะเอาไว้ใช้สู้กับเหล่า Templar กลุ่มที่ได้ใช้ชื่อองค์กร Abstergo Industries บังหน้าเอาไว้ !
---ในระหว่างสำรวจความทรงจำของ Ezio , Desmond ก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากที่ตื่นขึ้นมาจากการติดต่อความทรงจำของบรรพบุรุษ ซึ่งพบว่าคืออาการ "Bleeding Effect" อาการข้างเคียงจากการใช้เครื่อง Animus นานเกินไป ส่งผลให้เรื่องราวประสบการณ์และความเชี่ยวชาญต่างๆของบรรพบุรุษ(เช่น Eagle Vision) แพร่มายังผู้ใช้ ซึ่งคล้ายๆโรคหลายบุคลิก โดยคนที่ต้องประสบชะตานี้มาก่อน ก็คือ Subject 16 คนที่ถูกทดลองมาก่อน Desmond (Desmond คือ Subject 17)
---หลังจากได้ย้อนความทรงจำอีกครั้งและได้เผชิญหน้ากับพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 Rodrigo Borgia , Desmond ก็ได้มองผ่านความทรงจำของ Ezio ที่กำลังเข้าไปใน The Vault และพบกับ Minerva สาวลึกลับที่ถูกฉายภาพออกมาเป็นโฮโลแกรม เธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดกับ Ezio แต่เธอตั้งใจจะพูดกับ Desmond ! เธอรู้ว่าสักวันหนึ่ง Desmond จะต้องมาย้อนความทรงจำของ Ezio .. และเธอได้เตือนว่าครั้งหนึ่งโลกเคยโดนหายนะร้ายแรงไปแล้ว และมันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในไม่ช้า (คือวันสิ้นโลก 2012 นั่นเอง !) เธอจึงบอกว่ายังมี The Vault อื่นๆ ที่ยังคงเก็บรักษา Piece of Eden เอาไว้ ซึ่ง Desmond จะต้องค้นหาและปกป้องมันเอาไว้ใช้ป้องกันหายนะครั้งนี้ !
---"When we were still flesh, and our homes still whole, your kind betrayed us. We who made you. We who gave you life! We were strong. But you were many. And both of us craved war. So busy were we with earthly concerns, we failed to notice the heavens. And by the time we did... the world burned and naught remained but ash. It should have ended then and there. But we built you in our own image. We built you to survive. And so you did. Few were our numbers. Your kind and mine. It took sacrifice. Strength. Compassion. But we rebuilt. And as life returned to the world... We endeavored to ensure this tragedy would not be repeated.
---But now we are dying. And time will work against us. Truth turned into myth and legend. What we build, misunderstood. Let my words preserve the message and make a record of our loss. But let my words also bring hope. You must find the other temples. Built by those who knew to turn away from war. They worked to protect us - to save us from the fire. If you can find them... If their work can be saved... so too might this world. Be quick, for time grows short. And guard against the Cross, for there are many who will stand in your way.
---It is done. The message is delivered. We are gone from this world. All of us. We can do no more. The rest is up to you, Desmond."
---"เมื่อครั้งที่พวกเรายังมีตัวตนเเละปรากฏเป็นหลักเเหล่ง เผ่าพันธุ์เจ้าได้ทรยศเรา ผู้ที่สร้างสรรค์เจ้าขึ้นมา เรา... ผู้ให้ชีวิตเเก่เจ้า พวกเราเเข็งเเกร่ง เเต่พวกเจ้ามีจำนวนมากเหลือเกิน เเละเกิดสงครามขึ้นมา มันเป็นสงครามที่ยุ่งเหยิงเเละไม่มีเวลาที่จะคิดถึงสิ่งดีๆ เเต่ถึงกระนั้น โลกก็ได้ถูกเผาผลาญจนเหลือเเต่ตอตะโกไปเเล้ว มันสมควรจะจบไปเเล้ว เเต่เราได้สร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ในอุดมคติของเรา เพื่อที่จะเอาชีวิตรอด เเละสีสันได้กลับมาบนโลกอีกครั้ง เเละทำให้เเน่ใจว่าโศกนาฎกรรมนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เเต่บัดนี้ เรากำลังสิ้นเผ่าพันธุ์ ความจริงที่เราเผยเเพร่กลายเป็นตำนาน สิ่งที่เราได้สร้างขึ้น ได้มีการเข้าใจผิด คำพูดของข้าได้ดำรงไว้ซึ่งข้อความเเละการสูญเสียของเรา เเต่ยังคงไว้ซึ่งความหวัง เจ้าต้องตามหาวิหารเเห่งอื่นๆ ที่สร้างโดยผู้ที่หันหลังสงคราม พวกเขาปกป้องเรา ช่วยเราให้ผ่านพ้นภัยอันตรายทั้งหลาย หากเจ้าเจอพวกเขา หากเจ้ารักษางานของพวกเขาไว้ได้ เจ้าก็อาจช่วยโลกนี้ไว้ด้วย เรามีเวลาไม่มาก เเละอย่าให้พวกเทมพลาร์ได้มันไป เเละพวกมันจะขัดขวางเจ้าทุกวิถีทาง
เสร็จสิ้นเเล้ว ข้อความถูกส่งให้เเล้ว เราทั้งหมดได้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปเเล้ว เราทำอะไรไม่ได้อีกเเล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจ้าเเล้วละ..... Desmond ! "
- คำพูดทิ้งท้ายของ Minerva ต่อ Desmond ในตอนจบของ AC II ก่อนที่เธอจะหายไป
Credit ขอบคุณท่าน Aeroforge42 แห่งบอร์ด OS ที่ช่วยแปลให้ด้วยครับ =3=
---เครื่อง Animus ได้แสกนและพบข้อมูลเกี่ยวกับ Piece of Eden ว่ามันถูกซ่อนไว้กระจัดกระจายรอบโลก ! ทุกอย่างดูไปได้ด้วยดี จนกระทั่งสัญญาณที่ติดไว้ในที่หลบภัยดังขึ้น ! Lucy ต้องเตือน Desmond ว่าองค์กร Abstergo ได้พบที่หลบภัยและบุกเข้ามาแล้ว ซึ่ง Abstergo ที่นำมาโดย Vidic ก็เปิดศึกโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ แต่ Desmond, Lucy, Shaun และ Rebecca ก็สามารถหนีออกมาได้โดยรถบรรทุก ซึ่งก่อนการหลบหนี Desmond เองก็ยังได้ใช้ Hidden Blade ครั้งแรกทดลองกับลูกน้องของ Vidic
---ถึงแม้ว่า Desmond เองจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากบรรพบุรุษผ่านการติดต่อกับเครื่อง Animus แต่ดูเหมือนว่าความทรงจำของบรรพบุรุษ "Ezio" ยังเหลือข้อมูลมากมายที่ยังไม่ได้ค้นพบ และไม่นานนักกลุ่มของ Desmond ก็ปลอดภัยจากการหลบหนีองค์กร Abstergo ...ทว่ายังมีคำถามคาใจมากมายในหัวของ Desmond ! และวิธีเดียวที่จะหายคาใจก็คือการกลับเข้าในเครื่อง Animus อีกครั้ง ซึ่งจะย้อนกลับไปในความทรงจำของ Ezio ... กลับไปในยุคเรเนซองส์ ... การผจญภัยครั้งสำคัญก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง มวลมนุษยชาติจะอยู่หรือตายขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วล่ะ Desmond !
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Grand Master of the Assassin Order
Grand Master of the Assassin Order
---"Grand Master" เป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดขององค์กร "Assassin Order" โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้จะสามารถควบคุมและสั่งการได้อย่างเต็มรูปแบบ ! และ "Grand Master" ยังได้ถูกใช้ในองค์กร Templar โดยตำแหน่งและความสามารถนั้นก็เหมือนกับองค์กร Assassin
---ในยุค Middle Age (ยุค Middle Age หรือยุคกลาง เป็นยุคประวัติศาสตร์ของยุโรปในช่วง ศตวรรษที่ 5 ถึง ศตวรรษที่ 15) ปี 1191, องค์กร Assassin Order ได้ถูกตั้งใน "Kingdom of the Holy Land" (แผนที่ที่ใหญ่ที่สุดในภาค 1 ที่เชื่อมเมืองต่างๆเอาไว้) และผู้ที่ได้เป็น Grand Master ในขณะนั้นคือ "Al Mualim" ผู้ปกครองป้อมปราการของ Assassin ในเมือง Masyaf ซึ่งในเวลาต่อมา หลังจากที่ Al Mualim ได้เปิดเผยว่าตัวเองนั้นแท้จริงคือสมาชิกขององค์กร Templar และได้ตายในที่สุด ตำแหน่งนี้ก็ถูกถ่ายโอนไปยังคนที่ฆ่าเขาก็คือ "Altair Ibn-La'Ahad"
---ในยุคกลางตอนปลาย (Late middle ages) ช่วงศตวรรษที่ 15, "Mario Auditore" ก็ได้รับตำแหน่ง Grand Master และได้ตั้งสำนักงานใหญ่ใน "Monteriggioni" เมืองที่ครอบครัว Auditore ได้ปกครองเนิ่นนานมาหลายศตวรรษ !
---ในเดือนมกราคม ค.ศ.1500, Mario ก็ถูกฆ่าโดย Cesare Borgia หลังจากที่เมืองต้องตกอยู่ภายใต้การล้อมของ Templar ,ทำให้ Niccolo Machiavelli ต้องกลายเป็น Grand Master ไปโดยปริยาย และเขาก็ได้ตั้งฐานที่มั่นใน Rome ประเทศ Italy, ศูนย์กลางอำนาจของเหล่า Templar ! ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง Grand Master เขายังได้คอยช่วยเหลือ Ezio ไว้หลายครั้ง เช่น เหตุการณ์ที่เมือง Monteriggioni ถูกโจมตี ทำให้ Ezio บาดเจ็บและหมดสติไป, Machiavelli ก็ยังได้มาช่วยชีวิต Ezio ไว้
---ถึงอย่างไรก็ตาม ในปี 1503 , Ezio ก็ได้เป็น Grand Master หลังจากที่ Machiavelli ได้มอบตำแหน่งให้แทน เพราะตระหนักถึงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และจะเป็นผู้นำที่สามารถต่อกรกับ Borgia ได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้สมาชิกคนอื่นๆในองค์กร จะได้เห็นตัวอย่างที่ควรเป็นแบบอย่างในตัวของ Ezio อีกด้วย
Nikolai Orelov
---ในยุคสมัยใหม่ (Modern Age) ตำแหน่งของ Grand Master นั้นก็ยังคงมีอยู่ โดยในปี 1888 , Nikolai Orelov , นักฆ่าในช่วงการปฏิวัติของรัสเซีย ยังคงรับคำสั่งโดยตรงจากผู้นำสูงสุดที่ใช้ชื่อว่า "the Mentor" !
---และ 100 ปีต่อมา.. Mentor ก็ยังคงถูกใช้อยู่ ! และยังคงใช้ชื่อเดียวกับชื่อบุคคลรุ่นที่แล้ว
Daniel Cross
---ในปี 1998 , "Daniel Cross" เหลนของ Orelov ก็เริ่มค้นหา "Mentor" หลังจากที่ได้รับอาการ "Bleeding Effect" จากทวดของเขา และในที่สุด.. เขาก็ได้พบกับ the Mentor และจำใจต้องฆ่าโดยใช้ Hidden Blade ของ the Mentor เองปลิดชีวิต ในสำนักงานใหญ่ "ดูไบ (Dubai)" เมื่อปี 2000
*หมายเหตุ เรื่องราวในยุค "Modern Age" เป็นเรื่องราวของ "Assassin's Creed: The Fall" ซึ่งเป็นหนังสือการ์ตูน ไม่ได้อยู่ใน Assassin's Creed : Brotherhood นะครับ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
บทนำ
บทนำ
---เรื่องราวของ Assassins Creed Brotherhood นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อทาง Templar ได้มีคำสั่งจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มนักฆ่า ทำให้ทางกลุ่มนักฆ่าที่นำโดย Ezio ซึ่งตอนนี้ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมนักฆ่า "Master Assassin" ตัดสินใจสู้ตาย โดยวางแผนจะบุกเข้าโจมตีใจกลางอำนาจของ Templar ที่อยู่ในกรุงโรม โดยเป้าหมายของ Ezio ก็คือเหล่าขุนนางผู้ปกครองที่ยึดอำนาจและทำการฉ้อราษฎร์บังหลวง, "Borgia Family" เพื่อปลดปล่อยพวกเขาและประชาชน
---งานนี้จึงไม่ใช่อยู่ที่ฝีมือการต่อสู้และลอบสังหารเท่านั้น แต่ต้องมีความสามัคคี ความเป็นผู้นำในการสั่งการลูกน้องในทีมหรือเพื่อนๆ ให้วางแผนต่อสู้จัดการกับเหล่า Templar และพวกขุนนางจอมโกงให้สิ้นซาก
---ทางด้านนักฆ่าจำเป็นในโลกปัจจุบัน Desmond Mile เอง ก็ต้องแข่งกับเวลาโดยมองผ่านความทรงจำของ Ezio กับเครื่อง Animus อีกครั้ง เพื่อที่จะค้นหาว่า Piece of Eden ณ ตำแหน่งล่าสุดนั้นซ่อนอยู่ที่ไหนและชิงมันมา ก่อนที่จะถูกเหล่า Templar ในยุคปัจจุบันที่นำโดย Warren Vidic ที่ก็ตามล่า Piece of Eden เช่นกัน จะไปพบมันเข้าซะก่อน
---ระบบการเล่นของ Assassins Creed Brotherhood สามารถที่จะเลือกเล่นได้ทั้งแบบ Single-Player และ Multiplayer โดยหากเล่นคนเดียว ผู้เล่นก็จะต้องรับบทเป็น Ezio นำทีมเหล่าพี่น้องนักฆ่าที่จะเป็น AI คอยช่วยเหลือ ตามที่เราสั่งการ ส่วนถ้าจะเล่นในแบบ Multiplayer โหมดออนไลน์ ผู้เล่นจะเลือกตัวเล่นแยกกันได้อิสระ โดยตัวละครแต่ละตัวจะมีสกิล อาวุธ และการโจมตีในแบบต่างๆกันไป
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
The Story Before AC II
Assassin's Creed : Lineage
The Story Before AC II
Assassin's Creed : Lineage
---" ลูกรัก, ท้องฟ้าอันมืดมิดกำลังลอยมาปกคลุมเมือง Florence ..เวลาเหล่านั้นใกล้หมดลงเต็มที ศัตรูอยู่ใกล้ตัวเกินกว่าที่พ่อคิดไว้ ตอนนี้, การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ต้องเปิดเผย ทุกคนเป็นมนุษย์ ทุกชีวิตต้องมีจุดสิ้นสุด แต่มีบางอย่างที่จะไม่เปลี่ยนแปลง... Federico และ Ezio, ลูกของพ่อ จำเอาไว้ว่า ; พวกเรานั้นคือ Auditore da Firenze และพวกเราคือ Assassin ! "
- Giovanni Auditore da Firenze
---Assassin's Creed: Lineage เป็นหนังสั้นๆ 3 ตอนของซีรีส์เกม Assassin's Creed ถูกสร้างโดย "Ubisoft" บริษัทผู้สร้างเกมนี้นี่เอง ซึ่งตอนที่ 1 ถูกปล่อยออกมาทาง Youtube เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2009 ส่วนตอนที่ 2 และตอนที่ 3 ถูกฉายทางทีวีในช่อง "Spike TV" เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ก่อนจะมาลงใน Youtube ในเวลาต่อมา..
---เรื่องราวนั้นได้เริ่มขึ้นก่อนเกม Assassin's Creed II ซึ่งเกี่ยวกับพ่อของ Ezio คือ "Giovanni Auditore da Firenze", Giovanni เป็นนักฆ่าที่อาศัยในยุคเรเนซองส์ของอิตาลี (ศตวรรษที่ 15) โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน Assassin's Creed II และศัตรูคู่แค้นของทั้ง 2 พ่อลูก
ตอนที่ 1 - Firenze
---เรื่องราวเริ่มขึ้นประมาณ ค.ศ.1476 ในเมือง Florence ประเทศอิตาลี, Giovanni ซึ่งเป็นนักฆ่า ได้เริ่มบรรยายถึงประวัติศาสตร์ที่เจริญรุ่งโรจน์ในยุคนั้นของอิตาลี ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และศาสตร์แขนงต่างๆ ซึ่งเฟื่องฟูภายใต้ การชี้นำทางความคิด,การทุจริต,การทรยศ,การฆาตกรรม และ ความดำมืดอันตราย ที่ออกอาละวาด เขาจ้องมองครอบครัวที่กำลังมีความสุข...จากมุมมืด ก่อนที่จะออกไปยังถนนในเมือง Florence และเริ่มทำภารกิจ เพื่อทั้งรักษาความยุติธรรม เกียรติ ความปลอดภัยของครอบครัวเขาเอง และเพื่อรักษาคำสั่งที่ได้รับมา.. เขาได้ซุ่มโจมตี Rodrigo Borgia และผู้ติดตาม ซึ่งกำลังพยายามแอบออกจากเมืองหลังจากตะวันตกดิน Giovanni ได้ฆ่าผู้ติดตามไป 2 คน และได้พาผู้ติดตามที่บาดเจ็บกลับไป 1 คน ซึ่ง Borgia ก็หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ...!
---Giovanni นำผู้ติดตามที่รอดชีวิตกลับมาที่ Palazzo มอบให้แก่นายจ้างของเขา, " Lorenzo de' Medici " เขาได้รายงานผลและเตือน Lorenzo ถึงคำพูดที่ได้ยินบนถนนว่า "จะมีเหตุการณ์สำคัญ ...ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน Florence !" Lorenzo จึงได้ไปสอบสวนนักโทษที่ Giovanni พากลับมา โดยใช้วิธีการทรมาน และการพูดโน้มน้าวของ Uberto Alberti พันธมิตรฝั่งเดียวกัน จนในที่สุดนักโทษก็ยอมสารภาพว่า ในเมือง Milan .. วัน Feast of Santo Stefano "เมื่อระฆังดังเป็นครั้งที่ 12 ...และเป็นครั้งสุดท้าย ... ขุนนางชั้นสูงแห่ง Milan, "Galeazzo Maria Sforza" จะถูกปลงพระชนม์ !"
---Giovanni ได้รีบมุ่งหน้าไปยัง Milan และตามหาขุนนางท่ามกลางกลุ่มฝูงชนมากมายภายในโบสถ์ ทว่าไม่สามารถแทรกฝูงชนทันเวลาการถูกปลงพระชนม์ ซึ่ง Sforza ถูกทรยศและฆ่าโดยเจ้าหน้าที่ราชสำนักระดับสูง ด้วยการแทงที่อกหนึ่งครั้งและตำแหน่งด้านหลังไหล่ซ้ายอีกหนึ่งครั้ง ผู้ลอบสังหารถูกจัดการอย่างรวดเร็วโดย Giovanni และเหล่าทหารยามของ Sforza ถึงแม้ Giovanni จะร้องขอให้ไว้ชีวิตตัวบงการเพื่อไว้สอบสวน แต่ก็สายเกินไป ... ทหารยามได้หักคอนักฆ่าอย่างรวดเร็วด้วยอาวุธของเขา Giovanni จึงได้สำรวจร่างกายผู้ตาย และเจอเหรียญข้างในถุงกระเป๋า ซึ่งเป็นตราประจำครอบครัวของขุนนางในเมือง Venice !
---หลังจากกลับบ้าน Giovanni ก็มองลูกๆของเขานั่งเล่นหมากรุก และภรรยาของ Giovanni ก็ได้เล่าว่าลูกชายคนรอง, Ezio นั้นทำให้นึกถึงตัว Giovanni บ่อยครั้ง Giovanni จึงได้เดินเข้าไปและให้คำแนะนำกับ Ezio เกี่ยวกับวิธีการเป็นผู้เล่นหมากรุกที่ดี ซึ่งหลังจากที่กลับไปห้องพักของเขา Giovanni ก็ย้อนกลับไปคิดถึงการตายของ Sforza นั้นถือได้ว่าเป็นปล้นพันธมิตรของ "Medici" ที่มีอำนาจไป ซึ่งตอนนี้อีกฝั่งก็กำลังวางแผนต่อไปแน่นอน และการตายของขุนนาง Sforza ยังไม่ใช่จุดจบของปัญหา ... แต่มันเป็นแค่ "จุดเริ่มต้น" ! และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าสถานที่ต่อไปที่ต้องไปคือที่ใด !?
ตอนที่ 2 - Venezia
---Giovanni ได้มาถึง Venice เพื่อจะค้นหาความเป็นไปได้ว่าใครเป็นผู้สั่งการ การลอบปลงพระชนม์ขุนนางแห่งมิลานซึ่งซ่อนอยู่ในเมืองนี้ จนพาเขามาที่ "St. Mark's Basilica" หลังจากที่เขาได้ฆ่ายามอย่างเงียบๆ และซ่อนศพไว้ข้างทางเดิน, Giovanni ก็ได้แอบฟังกลุ่มคนที่กำลังคุยกันในนั้น (ชายผมขาวที่กำลังบรรยายอะไรบางอย่างให้ผู้ส่งสาร คือ Marco Barbarigo ตัวละครที่จะเป็นเป้าหมายให้ Ezio ลอบสังหารใน AC II) เขาเห็น "จดหมาย" ซึ่งได้ถูกส่งให้แก่ผู้ส่งสารและกำลังจะนำไปส่งให้แก่ "เจ้านาย" ในโรม อีกทั้งยังถูกยืนยันว่าการส่งครั้งนี้สำคัญมาก Giovanni จึงได้ใช้หลังคาตามรอยไปและสกัดกั้นผู้ส่งสารในตรอกที่ไร้ผู้คน หลังจากการต่อสู้อันยืดยาว Giovanni จึงเอาชนะผู้ส่งสารลงได้และพยายามจะซักถาม แต่ผู้ส่งสารกลับปฏิเสธ.. "ความลับของฉันก็จะไปกับฉัน !" และได้ฆ่าตัวตายโดยคมมีดของ Giovanni เอง หลังจากผิดหวังกับผลที่ตามมา Giovanni จึงได้นำจดหมายกลับไปด้วย ซึ่งมีตราประทับของครอบครัว "Barbrigo" และกลับเมือง Florence
---เมื่อกลับมาถึง Florence, Giovanni ได้มอบจดหมายให้กับ Lorenzo ทว่ามันถูกลงด้วยรหัสแปลกๆเอาไว้ Uberto จึงได้บอกว่าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถอดรหัสข้อความเสร็จ และได้ให้ Giovanni กลับบ้านไปก่อนและสัญญาว่าจะเรียกเขาทันทีหากถอดรหัสออก " Father Maffei " (เป้าหมายของ Ezio ใน AC II เช่นกัน) พระที่ทำงานรับใช้ให้กับ "Medici Family" สามารถแปลข้อความออกมาได้และได้นำมาให้กับ Uberto ซึ่ง Uberto ได้บอกกับพระว่า หากเรียกตัว Giovanni มาจะเท่ากับเป็นการปลุกอำนาจของ Lorenzo กลับขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้บังคับพระให้เก็บเป็นความลับเอาไว้ และห้ามนำข้อความที่แปลได้ไปบอกใครเด็ดขาด "ความลับเกิดขึ้นที่นี่ ... มันต้องตายที่นี่ !" ขณะเดียวกันที่บ้านของครอบครัว Auditore, Giovanni กำลังคุยเพลิดเพลินกับภรรยาของเขา ซึ่ง Maria ได้โน้มน้าวให้ Giovanni ไปพูดกับ Ezio ซึ่งกำลังแอบดูอยู่หลังกองฟาง ที่กำลังสับสนว่าเพราะเหตุใดพ่อของตนที่มีอาชีพเป็น นายธนาคาร ต้องออกจากบ้านในตอนกลางดึกบ่อยครั้ง ซึ่ง Giovanni ตอบกลับเพียงแค่ "เรื่องทางธุรกิจ" Ezio จึงบอกว่าอยากไปกับเขาด้วย แต่ Giovanni ปฏิเสธ และบอกว่า Ezio จำเป็นต้องช่วยพี่ชายคนโตดูแลครอบครัวเมื่อตัวเขาเองไม่อยู่ และยังได้เกล่าว่า "ลูกได้ช่วยมากกว่าที่ตัวลูกรู้เสียอีก Ezio !"
---ที่ Palazzo, Uberto ได้อ้างว่า พวกเขานั้นไม่สามารถถอดรหัสในจดหมายได้ และมีทางเดียวที่จะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังคือนำมันกลับไปที่กรุงโรม และส่งมันโดยการส่วนตัว ถึงแม้จะมีความอันตรายและคำเตือนโดย Lorenzo แต่ Giovanni ก็อาสาเป็นคนไปเอง เพราะว่าตนนั้นรู้แหล่งของข้อมูล Lorenzo จึงสั่งให้ Giovanni ค้นหารังที่ศัตรูพวกนั้นกบดานอยู่ และไม่ต้องปราณี ขณะเดียวกันที่ Venice พวก Barbrigo ซึ่งอยู่กับผู้นำของเขา Rodrigo Borgia กำลังสวดว่า "May the Father of Understanding be with us!" (เป็นคำพูดหลังจบการพบปะของเหล่า Templar) ก่อนที่จะวางดาบลงบนโต๊ะเป็นสัญลักษณ์กากบาท ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ขององค์กร Templar นั่นเอง !
ตอนที่ 3 - Roma
---Giovanni มาถึง Rome และได้ส่งจดหมาย ซึ่งเป็นไปตามแผน ! มันถูกส่งผ่านมือมากมายจนไปถึง Borgia , Borgia ได้รีบมุ่งหน้าไปยังเมือง "Vatican" สถานที่ที่เขาต้องนำจดหมายไปส่งให้แก่สมเด็จพระสันตะปาปา Sixtus ที่สี่ โดยพระองค์ขอไม่อ่านจดหมาย ทั้งคู่กำลังหารือเกี่ยวกับความท้าทายของ Lorenzo de' Medici ที่มีต่อฝ่ายสมเด็จพระสันตะปาปา, Borgia ได้ชี้แจงว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะโจมตี Florence ซึ่งขณะนี้อ่อนแอลง เพื่อที่ Sixtus ที่สี่เองก็จะได้สามารถใช้กำลังให้ Lorenzo ยอมอ่อนข้อลง แต่สมเด็จพระสันตะปาปากลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ และเกล่าว่า "มันไม่ใช่บทบาทในที่นี้ที่จะต้องยินยอมให้ใครตาย" แต่ได้พูดว่าจะให้การสนับสนุนทางศาสนาและให้ยืมกองทหารเพื่อ ผลดีที่ยิ่งใหญ่กว่าในเมือง Florence และเพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งของตนจะถูกรักษาเอาไว้
---เมื่อ Borgia ออกมา เขาถูกติดตามโดย Giovanni แต่ Borgia ก็จัดการทำให้ Giovanni พลาดการติดตาม และหายไปในโบสถ์ St. Peter ในขณะที่ Giovanni กำลังสำรวจด้านใน เขาก็ได้เผชิญหน้ากับ Borgia, Borgia ได้เกล่าว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาต่อจากนี้นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่ Giovanni เองได้สร้างขึ้นมา และได้ชมฝีมือของ Giovanni ว่าจะเป็นประโยชน์มากกับตัวเขา และถ้าหากร่วมมือกัน Giovanni ก็จะได้เห็น "A New World" (โลกใบใหม่หลังจากที่ได้ครอง Apple of Eden นั่นเอง) แต่ Giovanni ปฏิเสธ และบอกว่ามีทางเดียวเท่านั้นที่จะจบเรื่องนี้ได้คือใบมีดต้องอยู่ในคอของ Borgia "จะได้เห็นกัน !" Borgia เยอะเย้ยกลับ และสั่งลูกน้องของเขาให้โจมตี ! Giovanni สู้อย่างไม่เกรงกลัว และก็กำจัดลูกน้องทั้งหมดได้ โดยแลกกับการเสียมีดซึ่งหักจากการต่อสู้ ทว่ากลับถูกโจมตีอย่างกระทันหันโดยมีดปาของ Borgia เข้าที่อก ถึงแม้ Giovanni จะรอด แต่ Borgia ก็ใช้โอกาสนี้หนีไปได้ !
---Giovanni กลับมายังบ้านพร้อมกับบาดแผลที่สาหัส และได้ให้ Maria รักษาแผลให้ เขาสารภาพกับภรรยาถึงความกังวล เรื่องการถูกปลงพระชนม์ของขุนนางแห่งมิลาน ซึ่งพึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการ และเป้าหมายต่อมาก็คือการโจมตี Florence ! อีกทั้งยังกังวลความปลอดภัยของราชวงศ์ Medici, พรรคพวกและครอบครัวของตัวเอง ซึ่งถัดมาไม่นานนัก ยามติดอาวุธของเมืองซึ่งนำโดย Father Maffei ก็มาที่บ้านของ Giovanni , เขาจึงได้ให้ลูกชายคนโตยื้อเวลาเอาไว้ ก่อนที่ตัวเขาเองจะหลบหนีผ่านทางเดินลับในบ้าน
---กลับมายัง Rome, Borgia และเหล่า Templar กำลังลงความเห็นกันว่าศัตรูตัวฉกาจที่จะคุกคามแผนการของพวกเขา คือ Giovanni, Borgia จึงได้เกล่าว่าตนนั้นมีแผนการรับมือกับ Giovanni และเมื่อกำจัดนักฆ่าคนนี้ได้ ก็จะไม่มีอะไรมาขวางทางของพวกเขา ! ขณะเดียวกันที่ Florence, Giovanni กำลังเดินด้อมๆมองๆ บนความมืดของถนน และหยุดลงเมื่อเห็น Ezio กำลังทำเจ้าชู้อยู่กับแฟนสาว, Giovanni ได้บรรยายปิดท้าย "วันแห่งความมืดมิดกำลังเข้าใกล้เมือง Florence ขึ้นทุกที ...เวลาใกล้จะหมดลงเต็มที ... การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้น !" และได้กล่าว ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น "พวกเรานั้นคือ Auditore da Firenze ...และพวกเราคือนักฆ่า !"
---หนังจบลงด้วยข้อความสุดท้าย "บทสรุป ... อยู่ในมือคุณ" ก่อนที่เรื่องจะดำเนินใน Assassin's Creed II ต่อไป
Assassin's Creed II - After AC:Lineage
---ในที่สุด Giovanni ก็เจอหลักฐานบุคคลที่สั่งปลงพระชนม์ขุนนางแห่ง Milan ซึ่งหลักฐานนั้นตรงไปยัง "Francesco de' Pazzi" (คนที่จะถูก Ezio ฆ่าแล้วโดนแขวนคอประจานใน AC II) และได้ให้ Uberto ไปจับกุม ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ลูกชายของ Francesco, Vieri มีเรื่องกับ Ezio และทะเลาะวิวาทกันบนสะพาน Ponte Vecchio (ภารกิจแรกเลยของ AC II) Giovanni ได้ตำหนิถึงการกระทำของ Ezio และทำให้เขานึกถึงสมัยเมื่อตัวเองตอนยังหนุ่มๆ ต่อมาเขาได้ให้ Ezio ไปส่งจดหมายให้แก่ Lorenzo de' Medici แต่ Lorenzo ไม่อยู่เพราะออกไปนอกเมือง แต่ก็ได้ให้ Ezio ไปส่งจดหมายกับคนอื่นๆอีกครั้ง และให้ไปรับจดหมายในกรงนกพิราบใกล้ๆกับหอนาฬิกา "Piazza della Signoria"
---ในขณะที่ Ezio นั้นไม่อยู่ ก็ได้มียามติดอาวุธถูกส่งโดย Uberto มายังบ้าน Auditore บุกเข้ามาจับตัว Giovanni และลูกชายที่เหลือของเขาอีก 2 คน นำไปขังคุกที่หอนาฬิกา Piazza della Signoria, หลังจากทราบว่าพ่อถูกจับตัวไป Ezio จึงได้ปีกหอนาฬิกาเพื่อไปหาพ่อของเขา, Giovanni ได้สั่งให้ Ezio ไปเปิดกล่องเหล็กในห้องที่อยู่ด้านหลังเตาผิง และให้นำหลักฐานที่จะทำให้ตัวเองพ้นข้อเกล่าหาไปให้แก่ศาล Gonfaloniere (ซึ่งก็คือ Uberto) ถึงอย่างไรก็ตามวันต่อมา Giovanni ก็ต้องช๊อคเมื่อรู้ว่า Uberto อยู่ฝั่งเดียวกันกับ Borgia และ Uberto ก็ปฏิเสธไม่ขอรับหลักฐานดังเกล่า เขาได้พูดคำสั่งเสียครั้งสุดท้าย ในขณะที่ Ezio ก็พึ่งพบว่า Uberto หักหลังพ่อของเขา และต้องมองดูอยู่ด้านล่างโดยไม่สามารถขึ้นไปหยุดการประหารนั้นได้ ...
"แกมันไอ้คนทรยศ , Uberto และเป็นพวกเดียวกับมัน ! แกอาจจะเอาชีวิตฉันไปได้ในวันนี้ , แต่สักวันพวกเราจะหวนกลับมาเอาชีวิตแก , ฉันสาบาน! พวกเราจะ ..."
- คำพูดสุดท้ายของ Giovanni Auditore ก่อนการประหาร
Assassin's Creed : Project Legacy
Coming Soon
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Character Profile
Coming Soon
Assassin's Creed : Project Legacy
Coming Soon
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Character Profile
Coming Soon
Comment